มีลักษณะเป็นพู
2 พู อยู่บริเวณทรวงอกรอบเส้นเลือดใหญ่ของหัวใจ
ต่อมไทมัสจะเจริญเต็มที่ตั้งแต่เป็นทารกอยู่ในครรภ์มารดาและมีขนาดใหญ่มากเมื่อยังมีอายุน้อย
แต่เมื่ออายุมากขึ้นขนาดของต่อมไทมัสจะเล็กลงและฝ่อไปในที่สุด
อวัยวะเป้าหมาย : เนื้อเยื่อต่อมไทมัส
หน้าที่ : กระตุ้นให้เนื้อเยื่อต่อมไทมัสเอง
ซึ่งเป็นอวัยวะน้ำเหลืองสร้าง T-lymphocyte
หรือ T-cell ซึ่งเป็น
เซลล์ที่สำคัญในระบบภูมิคุ้มกันของร่างกาย และพัฒนา T-lymphocyte หรือ T-cell
ซึ่งเป็นเซลล์
ที่สำคัญในระบบภูมิคุ้มกันของร่างกาย
ออกเป็น 3 ชนิดที่มีหน้าที่การทำงานต่างกันไป ชนิดแรก
มีหน้าที่จดจำและตอบสนอง
เพื่อระบุชนิดของแอนติเจนที่พบในร่างกาย แล้วกระตุ้นการทำงาน
ของ B-cell ให้สร้างแอนติบอดีขึ้นมาต่อต้านสิ่งแปลกปลอมหรือเชื้อโรคให้หมดฤทธิ์ไป ชนิดที่สอง
มีหน้าที่ยับยั้งการทำลายเซลล์ร่างกายของเซลล์เม็ดเลือดขาว
ชนิดที่สามมีหน้าที่กำจัดเซลล์
ร่างกายที่ติดเชื้อ
ไทโมซิน (Thymosin)
เป็นฮอร์โมนที่สร้างจากต่อมไทมัส ซึ่งมีโครงสร้างเป็นสาย พอลิเปปไทด์ ที่มีกรดอะมิโนต่อกัน เป็นสาย มีโครงสร้างหลายแบบ เช่น ไทโมซินแอลฟาหนึ่ง และไทโมซินเบตาสี่ เป็นต้น
หน้าที่ : กระตุ้นการแบ่งเซลล์เม็ดเลือดขาวประเภทลิมโฟไซท์ (Lymphocyte หรือ T-cell) ที่ยังอ่อนอยู่
(Immature lymphocyte) แล้วปรับสภาพไปเป็นลิมโฟไซท์ที่เจริญเต็มที่ (Mature lymphocyte)
ลิมโฟไซท์ที่เจริญเต็มที่แล้วจะออกจากต่อมไทมัสไปอยู่บริเวณม้ามและ
ต่อมน้ำเหลืองทั่วร่างกาย ทำหน้าที่สร้างภูมิคุ้มกันโรคเนื่องจากการกระทำของเซลล์
(Cellular immunity) คือทำหน้าที่เกี่ยวกับปฏิกิริยาภูมิแพ้
และการไม่ยอมรับเนื้อเยื่อแปลกปลอมที่ปลูกถ่ายกับร่างกาย
ป้องกันการติดเชื้อจากเชื้อโรคต่างๆ เช่น เชื้อแบคทีเรีย ไวรัส เชื้อรา ต่อมไทมัสจะไวต่อการติดเชื้อ รังสี การเจ็บป่วยมาก พบว่าถ้ามีการติดเชื้อนานๆ
เมื่อหายแล้วต่อมไทมัสจะมีขนาดเล็กลงเล็กน้อย
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น